Mike Rowe เกี่ยวกับการปิดกั้น coronavirus: ‘มีคำใหม่สำหรับผู้คน 40 ล้านคนในประเทศนี้: ไม่จำเป็น’

“มันบ้ามาก” ที่รัฐบาลของรัฐและท้องถิ่นถือว่าคนอเมริกันหลายล้านคนเป็นคนงาน”ไม่จำเป็น” เนื่องจาก ข้อ จำกัด ของไวรัสโคโรนา “Dirty Jobs” ผู้ดำเนินรายการ Mike Rowe กล่าวกับ ” Hannity ” ในวันพฤหัสบดี

“มีคำศัพท์ใหม่สำหรับผู้คน 40 ล้านคนในประเทศนี้: ไม่สำคัญและมันก็บ้า” Rowe กล่าวกับพิธีกร Sean Hannity “เราถือว่าคนจำนวนมหาศาลของเราโดยพื้นฐานแล้วเพียงคลิกเดียวจาก [เป็น] ที่ไม่สำคัญหรือไร้ค่า”

ในขณะที่รัฐและเมืองต่างๆนำกลับมาใช้ใหม่ในการปิดกั้นและคำสั่งซื้อให้อยู่ที่บ้านท่ามกลางกรณีที่เพิ่มขึ้นการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต Rowe กล่าวว่าการปิดธุรกิจที่ไม่จำเป็นที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงอีกตัวอย่างหนึ่งในความคิดของฉันเกี่ยวกับวิธีการตัดคุกกี้ครั้งใหญ่ ในนามของความปลอดภัยสาธารณะโดยที่เราปฏิบัติต่อทุกคนเหมือนกันยกเว้นคนสำคัญ ”

“ในช่วงที่มีการระบาดใหญ่นี้” Rowe กล่าวเสริม “ฉันได้เห็นโดยตรงแล้วว่าทุกคนมีความสำคัญต่อใครบางคนแม้ว่าคุณจะทำงานเพื่อจ่ายค่าใช้จ่ายของตัวเองก็ตามดังนั้นจึงมีบางอย่างเกิดขึ้นที่นี่นั่นคือโดยพื้นฐานแล้วเป็นแบบกลับหัว และความจริงที่ว่านโยบายเหล่านี้ถูกกำหนดขึ้นโดยผู้นำที่แสดงตัวว่าเป็นคำจำกัดความของความหน้าซื่อใจคดก็คือฉันกลัวว่าจะนำเราไปสู่สถานที่ที่การเอาคนเซ่อกลับมาเป็นเรื่องยากมาก ในห่าน”

ผู้ปกครองที่เป็นประชาธิปไตยสนับสนุนให้คนอยู่บ้านออกไปที่บาร์ไวน์

เมื่อ Hannity ถาม Rowe ว่าจะเกิดอะไรขึ้นทั่วอเมริกาในช่วงแรกของการระบาดหาก “เกษตรกรไม่ได้ทำฟาร์มคนเก็บของไม่ได้แพ็คของและคนขับรถบรรทุกไม่ได้บรรทุก” ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ mikeroweWORKSตอบโดยอ้างถึงคริสต์มาสแบบคลาสสิก ฟิล์ม.

“แฟรงก์คาปราถามคำถามเดียวกันนี้ในวงกว้างมากขึ้นใน ‘It’s A Wonderful Life’ เขากล่าวเกี่ยวกับ George Bailey [รับบทโดย Jimmy Stewart] ว่า ‘จะเกิดอะไรขึ้นถ้าชายคนนี้ไม่เคยเกิดมาเขาไม่เคยเดินบนโลกเลยหรือ?’

“และคำตอบคือภาพยนตร์เรื่องโปรดของทุกคนเพราะมันแสดงให้เราเห็นชัดเจนว่าเราเชื่อมโยงกันอย่างไร” โรว์กล่าวต่อ “ไม่เป็นไรชาวประมงกับชาวนาคนงานเหล็กเทียบกับช่างท่อเทียบกับครูกับนักบัญชีเราทุกคนล้วนเป็นส่วนหนึ่งของภาพโมเสก

“มันเป็นผ้านวมและถ้าคุณเริ่มเก็งกำไรคนบางคนจากกระเบื้องโมเสคโดยอาศัยคำจำกัดความของความจำเป็นที่ไร้เหตุผลคุณก็จะได้รับส่วนที่น่าหดหู่ใจของ ‘It’s a Wonderful Life’ และมันจะดำเนินต่อไป และต่อไป “