การดูดไขมันไม่ได้ช่วยเรื่อง “การลดน้ำหนัก”

การดูดไขมันไม่ได้ช่วยเรื่อง “การลดน้ำหนัก” การดูดไขมัน (Liposuction) จริงๆแล้วมีมานานมากแล้ว แต่เทคนิครวมถึงความทันสมัยของเครื่องมือก็มีพัฒนาการมากขึ้นเรื่อยๆ การดูดไขมันเป็นการปรับเปลี่ยนรูปร่างให้ดูเล็กลง คือมีการนำไขมันที่สะสมตามบริเวณต่างๆออกจากร่างกาย ซึ่งไขมันพวกนี้ไม่มีความจำเป็นในการอยู่ในร่างกาย เพราะเป็นไขมันส่วนเกิน ตำแหน่งยอดฮิตที่คนมาปรับรูปร่างให้ดูเล็กลง กระชับขึ้น ได้แก่ หน้าท้อง, เอวเอส, ต้นขา, ขานอก, ขาใน, สะโพก, แขน, น่อง, เหนียง เป็นต้น

วิธีการดูดไขมันคือ การทำให้ไขมันแตกตัว แล้วดูดไขมันออกมา ซึ่งเทคนิคการทำให้ไขมันแตกตัวออกมา มีหลายวิธีด้วยกัน ตามการพัฒนาของเครื่องต่างๆ อาทิ การใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์, การใช้แรงดันน้ำ, การปล่อยคลื่นวิทยุ, การลงความร้อน เป็นต้น เพื่อให้ไขมันเกิดการแตกตัวและละลาย ทำให้ไขมันดูดออกมาได้ง่ายมากขึ้น

สิ่งที่ควรให้ความสนใจเป็นอย่างมากคือ การดูดไขมันไม่ได้ช่วยเรื่อง “การลดน้ำหนัก”

เป็นเพียงการปรับรูปร่าง กระชับสัดส่วนเท่านั้น ถ้าเราสังเกตหลังจากดูดไขมันออกมา จะมีการแยกชั้นออกมาระหว่าง ชั้นไขมัน น้ำเลือด และน้ำเกลือ ซึ่งชั้นที่ลอยอยู่ด้านบนก็คือ “ชั้นไขมัน” ซึ่งแปลได้ว่า “มีน้ำหนักเบาที่สุด” ทำให้น้ำหนักไม่สามารถลดลงได้ หรือถ้าลงจริง ก็อาจลงไม่เกิน 1-2กิโลกรัม

ถ้าเรารับประทานอาหารไม่ระวังก็สามารถกลับมาน้ำหนักเท่าเดิมได้แล้ว ดังนั้นการดูดไขมันไม่ได้ช่วยให้ลดน้ำหนัก แต่เป็นเพียงทำให้รูปร่างกระชับสัดส่วน ดูได้รูปทรงมากขี้น ถ้าเราอยากคงรูปร่างที่ดีไว้ หลังจากดูดไขมันก็ควรจะออกกำลังกายต่อเนื่อง และมีการคุมอาหารร่วมด้วย

การดูดไขมัน ได้ผลถาวรเลยใช่มั้ยคะคุณหมอ ?
ตอบเลยว่า “ไม่ใช่ค่ะ” เนื่องจากสำหรับการดูดไขมันในบริเวณต่างๆ ก็ไม่ได้การันตีว่าไขมันจะหมดไปอย่างถาวร เพียงแต่ช่วยให้ดีขึ้นเท่านั้น สมมติมีไขมันอยู่ 100% หลังดูดออกอย่างมากจะออกไป 60% ของไขมันทั้งหมด หลังจากนั้นไขมันก็อาจจะกลับมาใหม่ เวลาทานอะไรเข้าไป แต่อาจจะกลับมาไม่ถึง 100% โดยอาจจะกลับมาแค่ 80% เท่านั้น แต่ถ้าหากไม่มีการควบคุมอาหารที่ดีพอ ไขมันก็อาจกลับมาเท่าเดิมได้เช่นกัน

อาการบวมหลังดูดไขมันเป็นเรื่องปกติ
เนื่องจากอาการบวมหลังดูดไขมันจะเกิดขึ้น “ทันที” หลังการดูดไขมันทิ้ง เนื่องจากจะเริ่มมีการอักเสบ เพราะขั้นตอนการ ดูดไขมัน ตลอดเวลา 1-3 ชั่วโมง

นั่นก็คือ การทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อ ทำให้ร่างกายมีอาการบวมได้ ส่วนน้ำที่อยู่ใต้ผิวนอกจากจะประกอบด้วยน้ำเกลือ ผสมยาชาที่เราใส่ก่อนการดูดไขมันจำนวนมากแล้ว หลังจากดูดไขมัน เสร็จสิ้นลง น้ำจากร่างกายเองก็จะไหลเข้าไปสมทบ ดังนั้นจึงสำคัญมากที่จำเป็นต้องมีการระบายน้ำออกมา แต่ว่าอาการบวมจะลดลงเรื่อยๆ เมื่อผ่านไปได้ 1-2สัปดาห์แรก