บริการทำความสะอาด: พรมสะอาด ปราศจากกลิ่นอับด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ

บริการทำความสะอาด: พรมสะอาด ปราศจากกลิ่นอับด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ การทำความสะอาดพรมให้หมดจด เป็นวิธีที่ช่วยป้องกันกลิ่นอับได้อยู่หมัด แถมยังช่วยกำจัดคราบสกปรกต่าง ๆ ออกไปได้อีกด้วย ซึ่งถ้าอยากจะทำความสะอาดพื้นพรมอย่างหมดจดอย่างนั้น ต้องพึ่งเครื่องซักพรม ที่มีลักษณะคล้าย ๆ เครื่องขัดพื้น ตามที่ใช้กันในอาคารใหญ่ ๆ แต่ถ้าคุณไม่อยากลงทุนซื้อเครื่องซักพรม ก็สามารถไปติดต่อเช่าเครื่องซักพรมตามร้านให้บริการเช่าเครื่องมือทำความสะอาดก็ได้ อยู่ในยุคที่สิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วนรอบด้านแบบนี้ก็สบายจังเลยเนอะ

1. ถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้าน

ลำพังแค่ฝุ่นไรที่ลอยมากับอากาศก็มากพอที่จะทำให้พรมสกปรกสุด ๆ อยู่แล้ว แต่ถ้าคุณปล่อยให้สมาชิกในบ้านใส่รองเท้าเข้าบ้านอีก รับรองเลยว่าพรมผืนสวยของคุณ จะต้องรับภาระเศษดิน เศษก้อนกรวด รวมไปถึงฝุ่นและความสกปรกอีกสารพัดเชียวล่ะ และทั้งหมดที่ว่ามานี้ก็เป็นต้นเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์ ฉะนั้นถ้าไม่อยากให้พรมสกปรกและมีกลิ่นตุ ๆ ก็ถอดรองเท้าก่อนเดินเข้าบ้านกันเถอะนะคะ หรือถ้าไม่ชินก็เปลี่ยนมาใส่สลิปเปอร์กันก็ได้

2. พรมเช็ดเท้าขาดไม่ได้เลย

พรมเช็ดเท้าจะช่วยคัดกรองสิ่งสกปรกจากเท้าของเรารอบหนึ่งก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกเหล่านั้นสะสมอยู่กับพรมมากเกินไป ซึ่งตำแหน่งวางพรมก็ควรจะเป็นจุดที่มีการเดินเข้าออกบ่อย ๆ เช่น ประตูหน้าบ้าน ที่เชื่อมต่อกับทางเข้าบ้าน หน้าประตูห้องโถง หรือห้องอาหาร รวมทั้งประตูหน้าห้องครัว และห้องนอนทุกห้องในบ้านด้วยจ้า

3. ดูดฝุ่นเสมอ

อีกหนึ่งวิธีช่วยป้องกันไม่ให้พื้นพรมสะสมสิ่งสกปรกมากเกินไป ก็คือการดูดฝุ่นทำความสะอาดพื้นพรมอยู่เสมอ ประมาณสัปดาห์ละ 3 ครั้ง และทำความสะอาดทุกวันสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง เพื่อกำจัดฝุ่นและเศษสกปรกที่ติดค้างกับพรมในทุก ๆ วัน ออกไป แต่จะให้ดี ควรฉีดน้ำยากำจัดฝุ่นสำหรับพื้นพรมลงไปก่อนจะดูดฝุ่นด้วย ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเหล่านี้จะช่วยดับกลิ่นเหม็น และเพิ่มกลิ่นหอมสดชื่นให้พรมได้

4. เลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีแผ่นกรอง HEPA

นอกจากจะต้องดูดฝุ่นให้พรมอยู่เสมอแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องทำอีกอย่าง ก็คือการเลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีแผ่นกรอง HEPA (High Efficiency Particulate Air Filter) อยู่ด้วย เพราะระบบกรองฝุ่นแบบนี้จะช่วยดักจับไรฝุ่นอนุภาคเล็ก ๆ ในพรมและในอากาศได้อยู่หมัด ไม่ทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย อีกทั้งยังสามารถฆ่าเชื้อโรคจากไรฝุ่นเหล่านี้ได้ด้วย แต่ถ้าเครื่องดูดฝุ่นของคุณไม่มีแผ่นกรอง HEPA จะใช้วิธีทำความสะอาดถุงเก็บฝุ่นบ่อย ๆ ก็ได้จ้า

5. เปลี่ยนฟิลเตอร์แอร์บ้าง

ในแต่ละวันที่เราเปิดใช้เครื่องปรับอากาศ ระบบเครื่องปรับอากาศก็จะดูดทั้งอากาศ และฝุ่นที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศเข้าไปในแอร์ด้วย ซึ่งแอร์ก็จะมีฟิลเตอร์ช่วยกรองฝุ่นไรอีกที จนในที่สุดเมื่อถึงกำหนดของมัน ก็จะมีฝุ่นและความสกปรกจับตัวอยู่ที่ฟิลเตอร์มากมาย ฉะนั้นเพื่ออากาศที่บริสุทธิ์ ปราศจากไรฝุ่น เมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนฟิลเตอร์แอร์ ก็ไม่ควรละเลยที่จะเปลี่ยนนะจ๊ะ

6. เลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ผสมสบู่ หรือแชมพู

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นพรมที่มีส่วนผสมของสบู่ หรือแชมพู มักจะเกาะจับฝุ่น และตกค้างอยู่ในพรม ซึ่งก็เท่ากับว่าพรมที่เราตั้งใจทำความสะอาด จะไม่สะอาดหมดจดอย่างที่หวังไว้ ดังนั้นพยายามเลี่ยงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นพรมเหล่านี้เอาไว้ดีกว่า แล้วมาเลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดพรมที่มีส่วนผสมของน้ำแทนนะคะ

7. กำจัดคราบสกปรกด้วยน้ำส้มสายชู

ทุกครั้งที่เผลอทำน้ำหกใส่พื้นพรม หรือแม้แต่คราบสกปรกจากอาหาร ก็ควรรีบกำจัดคราบนั้นให้หมดไปโดยเร็ว ก่อนที่มันจะซึมฝังลึกกับพื้นพรม ก่อให้เกิดปัญหาเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ต้นเหตุของกลิ่นเหม็น ๆ ขึ้นได้ วิธีทำความสะอาดก็สามารถทำได้โดย ใช้กระดาษซับคราบเปื้อนเหล่านั้นออกให้ได้มากที่สุดก่อน แล้วใช้ผ้าสะอาดจุ่มน้ำส้มสายชูผสมน้ำสะอาดเล็กน้อย มาเช็ดคราบให้ทั่ว เช็ดไปเรื่อย ๆ จนกว่าคราบจะจางหายไป จากนั้นก็ทำความสะอาดด้วยเครื่องดูดฝุ่นให้แห้งสนิทอีกที