ผู้ผลิตวัคซีนใหญ่สุดของโลกหวังกลับมาส่งออก “ภายในสิ้นปีนี้”

การดำเนินงานของโครงการโคแวกซ์มีแนวโน้มยิ่งล่าช้า เมื่อสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดียประเมินแนวโน้มการกลับมาส่งออกวัคซีนป้องกันโควิด-19 อีกครั้ง “ภายในสิ้นปีนี้” ล่าช้ากว่ากำหนดการเดิม

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ว่า นายอดาร์ พูณะวัลลา ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร ( ซีอีโอ ) ของสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย ( เอสไอไอ ) ผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดของโลก เมื่อวัดจากปริมาณ และเป็นกำลังหลักของการผลิตวัคซีนให้กับโครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) กล่าวเมื่อวันอังคารว่า ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ รัฐบาลอินเดียหารือกับบรรดาผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่หลายแห่ง รวมถึงเอสไอไอ เกี่ยวกับการส่งออกวัคซีนป้องกันโควิด-19
 
ในส่วนของเอสไอไอนั้น ปัจจุบันให้ความสำคัญกับการผลิตและการกระจายวัคซีนภายในอินเดียเป็นหลัก ขณะเดียวกัน เอสไอไอหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะสามารถกลับมาส่งออกวัคซีนให้กับโครงการโคแวกซ์และนานาประเทศ “ภายในสิ้นปีนี้” ล่าช้ากว่ากำหนดการเดิม คือ “ภายในเดือน ต.ค.นี้”
 
ทั้งนี้ เอสไอไอ ซึ่งมีข้อตกลงกับบริษัทแอสตราเซเนกาของสหราชอาณาจักร ในการเป็นผู้ผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่แอสตราเซเนกาพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด และมีชื่อทางการค้าในอินเดียว่า “โควิชิลด์” เป็นกำลังสำคัญในการผลิตและส่งออกวัคซีนให้กับโครงการโคแวกซ์ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอินเดียระงับการส่งออกวัคซีนตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ปัจจุบันแม้อินเดียถือเป็น “โรงงานวัคซีนโลก” แต่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชนไปแล้วประมาณ 2.9% จากจำนวนประชากรทั้งประเทศราว 1,350 ล้านคน นับตั้งแต่เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา