หนังออนไลน์สยองขวัญ As Above So Below – แดนสยองใต้โลก นิเวอร์แซล พิคเจอร์ส และ เลเจนดารี พิคเจอร์ส ขอนำทุกท่านดำดิ่งลงไปใต้นครปารีส พร้อมกับสการ์เล็ต (รับบทโดย เพอร์ดิตา วีคส์) นักศึกษาโบราณคดีซึ่งลงไปในสุสานใต้ดิน เพื่อค้นหาปริศนาสำคัญที่หายไปในประวัติศาสตร์ ในภาพยนตร์ไซโคทริลเลอร์ As Above So Below แดนหลอนสยองใต้โลก
สการ์เล็ตและเหล่านักสำรวจ เดินทางลงไปสู่สุสานใต้ดินที่อยู่ใต้ท้องถนนในกรุงปารีส ซึ่งเต็มไปด้วยกองกระดูกมนุษย์และเป็นที่สิงสถิตของวิญญาณนับล้าน การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการผจญภัยเพื่อค้นหาปริศนาสำคัญที่หายไปในประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่กลับกลายเป็นการเดินทางสู่นครแห่งความตายที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและความสยดสยอง พวกเขาต้องเผชิญกับบางสิ่งบางอย่างที่ตามหลอกหลอนและจ้องจะพรากชีวิตของพวกเขา
หนังว่าด้วยนักโบราณคดีสาวผู้ห้าวหาญและไม่กลัวที่จะบุกทุกพื้นที่เสี่ยงอันตรายเพื่อค้นหาก้อนหินเล่นแร่แปรธาตุในตำนานอันเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นสำคัญที่พ่อผู้เป็นนักโบราณคดีเช่นเดียวกันกับเธออุทิศชีวิตตามหาเท่าไรก็ไม่พบมันจนพ่อเธอตัดสินใจฆ่าตัวตาย กลายเป็นทั้งบาดแผลในใจของเธอและแรงผลักดันให้เธอสานต่องานของพ่ออย่างเอาเป็นเอาตาย เธอเสี่ยงชีวิตเข้าไปในที่อันตรายหลายแห่งจนสามารถค้นหาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่บ่งชี้ตำแหน่งของก้อนหินเล่นแร่แปรธาตุ ซึ่งถูกซ่อนในห้องลับในสุสานใต้ดินกลางกรุงปารีส เธอจึงขอความร่วมมือจากเพื่อนสนิทอีกสองคนและแก็งค์วัยรุ่นเจ้าถิ่นที่คุ้นเคยเส้นทางอุโมงค์ลับต่างๆ ในสุสานใต้ดินเพื่อลงไปค้นหาก้อนหินก้อนนั้นและล่อใจเพื่อนร่วมทางด้วยคลังสมบัติโบราณ
Set up ของหนังมีความน่าสนใจที่โลเคชันสุสานใต้ดินอันเต็มไปด้วยอุโมงค์ ประตู ช่องทางลับ ทำให้หนังเล่นกับความมืด ความแคบ บีบคั้นอารมณ์ที่ทั้งอึดอัดและน่าสะพรึงกลัว และยิ่งเมื่อเกิดเหตุให้ทางเข้าสุสานเกิดเพดานถล่มทำให้เหล่าตัวละครต้องใช้เส้นทางที่พวกเขาไม่รู้จักและมีคำร่ำลือว่าเป็นเส้นทางที่ไม่เคยมีใครเข้าไปแล้วออกมาได้ หนังก็ได้พาเราเข้าไปในสถานที่ปิดตายที่มืดมิดคับแคบ และเต็มไปด้วยความน่าหวาดกลัวอย่างสมบูรณ์
เทคนิคการถ่ายภาพของหนังทั้งหมดหยิบยืมมาจากการเล่าแบบสารคดี ผสมกับภาพแบบ Home video ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดในหนังคือภาพจากกล้องวิดีโอที่ตามติดไปถ่ายทำการค้นหาของทีม และกล้องที่ติดคู่กับไฟฉายคาดหัวของทุกคนในทีม ทำให้คนดูถูกทำให้อยู่ในมุมมองเดียวกันกับตัวละคร ติดอยู่ในที่คับแคบ และในความมืดมิดของสุสานใต้ดิน ภาพที่เราจะได้เห็นก็คือภาพที่ตัวละครกวาดไฟฉายไปส่อง เพราะกล้องติดอยู่กับไฟฉายคาดหัว หรือกล้องหลักที่ตัวละครตัวหนึ่งจะถือตลอดเวลา เทคนิคนี้ทำให้เราตกอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับตัวละคร และเผชิญสิ่งต่างๆ ที่น่าหวาดกลัวพร้อมกันกับพวกเขา ซึ่งในส่วนนี้ของหนังทำงานได้ผลค่อนข้างดีต่อตัวเรื่องมาก โดยเฉพาะในจุดที่มันช่วยขับเน้นเอกลักษณ์ความน่ากลัวของโลเคชัน
อีกสิ่งหนึ่งที่ดีในหนังคือถึงแม้ว่าหนังจะมีองค์ประกอบหลายอย่างที่อาจนำพาไปสู่หนังผีที่มีผีโผล่ตึงตังทั้งเรื่องแบบที่เราเห็นในหนังผีหลายๆ เรื่องที่มากด้วยจังหวะผีโผล่ล้นเกร่อ ไม่ว่าจะเป็นสุสานใต้ดินหนึ่งพันฟุต ศพมนุษย์ที่ถูกฝังหลายล้านศพ หรือการตัดสินใจที่ไม่ค่อยมีสติของตัวละคร แต่ในหนังเรื่องนี้ทำได้ดีมากในจังหวะจะโคนของการใช้ผี ไม่มากไม่น้อยเกินไป ไม่โผล่มาแบบไร้ที่มาที่ไป มีผลสำคัญในการดำเนินเรื่องในแต่ล่ะช็อตที่ผีโผล่มา ไม่ใช่ผีที่ตึงตังสักแต่ทำให้คนดูตกใจเป็นจุดขายมักง่าย
แต่หนังก็มีจุดอ่อนอยู่บ้างโดยเฉพาะเรื่องความสมเหตุสมผลบางอย่างในบทภาพยนตร์ ทั้งหลายละเอียดปลีกย่อยที่ไม่สำคัญเท่าไหร่นัก ไปจนถึงประเด็นสำคัญมากๆ แต่ไม่ได้ถูกยืนยันในหนังมากพอ เช่นความสัมพันธ์ของนางเอกกับพ่อ และพื้นหลังของตัวละครอื่นๆ เพราะมันเกี่ยวข้องกับแก่นที่หนังพยายามจะสื่อ ทำให้ท้ายที่สุดแล้วบทสรุปของหนังไม่มีพลังมากพอ ไม่เคลียร์ และไม่มีอะไรให้ยึดจับ จนมันอาจกลายเป็นแค่หนังผีที่มีดีไซน์ชั้นเยี่ยม เทคนิคการเล่าที่สนุกน่าสนใจ แต่ไม่ค่อยนำพาไปสู่สิ่งใดมากไปกว่านั้นเท่าไรนัก