ซีรี่ย์ฝรั่ง Penguin Bloom ชีวิตมีหวังเสมอ

ซีรี่ย์ฝรั่ง Penguin Bloom ชีวิตมีหวังเสมอ แม้หน้าหนังจะดูเหมือนหนังดราม่าชีวิตทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วนี่ดัดแปลงจากชีวิตจริงของครอบครัว Bloom ที่คนเป็นแม่ประสบอุบัติเหตุระหว่างท่องเที่ยวที่ประเทศไทย จนกระทั่งได้รับเลี้ยงนกตัวหนึ่งและนกตัวนี้ก็ได้ช่วยมอบความสุขให้ทุกคนจนมีช่องในยูทูปเป็นของตัวเอง เพื่อโชว์ความน่ารักของมันโดยเฉพาะ ทั้งยังได้นักแสดงชั้นดีอย่าง นาโอมิ วัตส์ นักแสดงหญิงเจ้าฝีมือที่ฝากผลงานภาพยนตร์ดัง ๆ มาแล้วมากมาย มารับบท แซม หญิงวัยกลางคนที่ชีวิตเต็มไปด้วยความทุกข์ระทมจากอุบัติเหตุ จนไม่กล้าเข้าสังคม หรือออกสู่โลกภายนอก และจมอยู่กับฝันร้ายและความหวาดกลัวราวกับอยู่ในมหาสมุทรไร้ทางขึ้นสู่ผิวน้ำ

แอนดรูว์ ลินคอล์น นักแสดงชายที่เรารู้จักกันดีในบทของ ริค ตัวเอกของซีรีส์ The Walking Dead ที่มาถ่ายทอดเรื่องราวของครอบครัวบลูม ผ่านตัวละคร คาเมรอน บลูม ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวที่พยายามจะรวมใจทุกคนไว้ท่ามกลางความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้าหาครอบครัว และ แจ็คกี้ วีเวอร์ นักแสดงสมทบที่เราคุ้นหน้าตามาจาก The Grudge (2020) ในบทที่ปรึกษาดวงซวยที่ถูกคำสาปของวิญญาณร้ายและ Silver Linings Playbook (2012) พร้อมด้วยคะแนนวิจารณ์ที่อยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ อาจจะไม่ได้เป็นที่ชื่นชมมากแต่ก็ชวนให้ติดตามว่าภาพยนตร์จะถูกถ่ายทอดออกมายังไง ยิ่งได้นาโอมิ วัตส์มาแสดงนำแบบนี้ ไม่ธรรมดาแน่นอน

“ครอบครัวคนเลี้ยงผึ้งชาวออสเตรเลีย บลูม ต้องเผชิญหน้ากับจุดเปลี่ยนสำคัญของความสัมพันธ์ ระหว่างการท่องเที่ยวในประเทศไทย เมื่อ แซม ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงจนเป็นอัพพาตครึ่งตัว และต้องอยู่แต่ในบ้าน แซมหมดความหวังที่จะใช้ชีวิตท่ามกลางความน่าสลดของตัวเอง เช่นเดียวกับ ครอบครัวที่นำโดย แคเมอรอน ก็พยายามหาทางที่จะทำให้ชีวิตทุกคนเหมือนเช่นในปกติ ทุกคนแบกรับความรู้สึกผิดมาตลอด จนกระทั่ง “เพนกวิน” เจ้านกกางเขนตัวหนึ่งที่บาดเจ็บอยู่ใกล้ ๆ บ้าน และ โนอาห์ ลูกชายของบ้านเป็นคนบังเอิญและเก็บมาเลี้ยง ทุกคนไม่รู้เลยว่าเจ้านกตัวนี้จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงและมอบบทเรียนครั้งสำคัญ ในการสร้างความหวังที่จะมีชีวิตข้างหน้า ด้วยพลังบวกและความรักของกันและกัน”

ภาพยนตร์เดินเรื่องผ่านมุมมองของตัวละครลูกของแซม อย่างโนอาห์ที่เล่าเรื่องให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป ก่อนหนังจะค่อย ๆ ใส่ผลที่ตามมาหลังอุบัติเหตุของแซมที่ประเทศไทย จากความประมาทของสถานที่ท่องเที่ยวที่มีปัญหาแต่ไม่ได้รับการให้ความสนใจ จนกระทั่งมีผู้ประสบเหตุอย่างแซม เธอต้องรู้สึกสิ้นหวัง ไร้อิสระภาพและไม่มีแม้แต่ความสุข นอกจากต้องพยายามใช้ชีวิตไปวัน ๆ กับครอบครัวที่มอบความรักให้กับเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถเดินได้อยู่ดี เธอผลักไสทุกคนออกไปและคิดว่าสักวันตัวเองอาจจะไม่มีชีวิตอยู่

กระทั่งมีเจ้านกกางเขนที่บาดเจ็บและบินไม่ได้มาคอยส่งเสียงร้องอย่างน่ารำคาญ จนสามารถเรียกความสนใจ และความห่วงใยจากเธอ ผู้ไม่ยอมเปิดรับใคร เมื่อเป็นเช่นนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างคนที่สิ้นหวัง กับ นกที่บินไม่ได้ ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่ารักน่าชัง ราวกับเจ้าเพนกวินเป็นตัวละครหลักสำคัญของเรื่องที่พูดไม่ได้ แต่มักจะสื่อสารอะไรบางอย่างให้คนได้รับรู้ ในขณะเดียวกันปมตัวละครอื่น ๆ ก็ช่วยเพิ่มมิติให้เรื่องราวมากขึ้น โดยเฉพาะปมสำคัญของเรื่องที่ค่อย ๆ ใส่เข้ามา สลับกับฉากที่แสดงถึงความรักและความอบอุ่น ซึ่งหนังก็ทำออกมาได้รื่นไหล แม้บทจะไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อนเกินความคาดเดามากนัก อาจเพราะเป็นหนังที่สร้างจากชีวิตจริง

หนังใช้ภาพของทะเลแทนความเศร้าที่ตัวละครจมดิ่งลงไป ตัวละครอย่างแซมที่ต้องพยายามแหวกว่ายอยู่ในความมืดมิด ไร้แสงสว่างหรือแม้แต่อากาศจะหายใจทุกคืนก็ฝันร้าย และได้แต่รำพึงว่าตัวเองจะไม่มีวันกลับมาเดินได้ กระทั่งลูกชายอย่างโนอาห์ที่เอานกมาเลี้ยง แม้มันจะสร้างความน่ารำคาญเพราะด้วยความที่เป็นนก เธออยากจะไล่มันไป แต่แล้วด้วยความที่ทั้งคู่ต่างมีสิ่งที่ขาดหายไปเหมือนกัน เธอเดินไม่ได้ ส่วนเพนกวินบินไม่ได้ แต่มันก็พยายามที่จะช่วยเหลือทุกคน และมอบความสุขในแบบของมัน แม้ว่าเธอจะต้องเจ็บปวด แต่สุดท้ายเมื่อเวลาผ่านไป เธอจึงรู้ว่าการเปิดใจให้กับสิ่งเล็ก ๆ อาจเป็นหนทางหนึ่งของการมีความสุข โดยไม่หลงลืมตัวตนของตัวเองไป และกล้าที่จะออกมาเผชิญโลกกว้างที่มีสิ่งสวยงามรอให้เธอค้นพบอยู่

หนังสะท้อนภาพของการพยายามข้ามผ่านปัญหาของครอบครัว ไม่ใช่แค่ แซมที่ต้องค้นหาแรงบันดาลใจในชีวิต ตัวละครลูก ๆ ก็มีปมปัญหาในใจที่ทำให้ไม่คุยกับแซม แคเมอรอนที่ไม่เข้าใจว่าแซมต้องการอะไร มันมักจะจบด้วยการขึ้นเสียงใส่กันก่อนเพราะความไม่เข้าใจ แล้วจบลงด้วยการพูดคุยอย่างมีเหตุผล หากครอบครัวไหนที่เลือกจะเปิดใจให้กัน ก็ย่อมที่จะหาทางเดินหน้าไปพร้อม ๆ กัน แม้แต่นกตัวหนึ่งที่อาจจะไม่ได้พิเศษสำหรับใคร ๆ มันอาจมีความหมายมากพอที่จะสร้างความรู้สึกที่เลือนหายไปอีกครั้ง และเป็นคนเดิมที่ใหม่ไม่ยึดติดกับอดีตหรือความผิดของตัวเองหรือคนอื่น ขอเพียงแค่เราเชื่อมั่นและสามารถมองเห็นปัญหาจากความไม่เข้าใจ เราก็จะพบกับคำตอบที่ตามหามาตลอดก็ได้

งานภาพเรียกได้ว่า มันสวยงาม มีความประณีต และให้อารมณ์ที่แตกต่างตามสถานการณ์ มีมุมกล้องหลายแบบ ไม่ว่าจะมีความสุขหรือทุกข์ สอดคล้องกับดนตรีที่ใส่เข้ามาก็ชวนให้คล้อยตาม แถมติดหูด้วย ชอบเพลงประกอบของมันมาก ๆ ทำให้น้ำตาซึมได้พอ ๆ กับหนังเลย นาโอมิ วัตส์ สามารถแสดงให้เห็นถึงน้ำตาและความเจ็บปวดที่ส่งออกมาในบทของหญิงอัมพาตที่ไร้ทางช่วยเหลือตัวเอง ซีนแต่ละซีนที่ออกมา เป็นธรรมชาติ และคลาดสายตาแทบไม่ได้ กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เพราะเธอเลย เช่นเดียวกับ แอนดรูว์ ลินคอล์น ที่แม้จะไม่ได้โชว์อะไรมาก แต่ก็ทำให้เห็นว่าเขาก็เป็นนักแสดงที่มีฝีมืออีกคน

นักแสดงอื่น ๆ ก็เหมือนกัน เล่นได้เป็นคนที่ดูไม่มีอะไรแต่สามารถทำให้เรารู้สึกอึ้งได้ โดยเฉพาะซีนปะทะอารมณ์ช่วงท้าย และที่ขาดไม่ได้เลย คือเจ้านกกางเขน เพนกวินที่แสดงออกมาได้ราวกับรู้ฉากรู้มุมกล้อง และแทบจะนำพาตัวละครทุกตัวไปสู่เรื่องราวแสนอบอุ่น เรียกได้ว่าเป็นดาราเจ้าบทบาทเลยก็ว่าได้ ทั้งซีนสุข เศร้า เหงา แอ็คชั่น (ใช่ มีแอ็คชั่นด้วยครับ) แต่บทก็ติดกรอบเดิมคือมันไม่ได้มีอะไรใหม่ อาจจะให้ความอบอุ่นได้ แต่ออสการ์อาจจะเมินเฉยในด้านบท แต่การแสดงของนาโอมิ มันก็มากพอที่จะทำให้เธอได้เข้าชิงแล้วล่ะ