ดูซีรี่ย์ All Together Now (Netflix) หนังวัยรุ่นที่แอบดาร์คและอบอุ่น

ดูซีรี่ย์ All Together Now (Netflix) หนังวัยรุ่นที่แอบดาร์คและอบอุ่น หนังชีวิตวัยรุ่น Original Netflix นอกสายตาที่กำกับโดย Brett Haley ผู้กำกับเรื่อง All the Bright Places ที่เป็นหนัง Original Netflix สร้างจากนิยายดัง ซึ่งเรื่องนี้ก็เช่นกัน สร้างจากนิยายชื่อเรื่อง “Sorta Like a Rock Star” จากปลายปากกาแมทธิว ควิก และเหมือนเป็นแนวถนัดของผู้กำกับคนนี้ที่มักเลือกนิยายวัยรุ่นที่ไม่ได้สดใสหรือแนวหัวใจว้าวุ่นจีบกันมาทำ แต่เป็นเรื่องในโทนดาร์คดิ่งลงสู่จุดมืดมิดของชีวิตแทน

แอมบอร์ แอพเพิลตัน (อาวลีอี คราวาลิโอ) สาววัยรุ่นคิดบวกและยิ้มได้แม้ชีวิตส่วนตัวของเธอจะสั่นคลอน ต่างจากภาพที่เห็นภายนอก เธอต้องอาศัยอยู่บนรถบัสโรงเรียนยามค่ำตืนกับแม่เพียงสองคนและหมาน้อยเพื่อนรักอีก 1 ตัว แต่ต้องปิดเรื่องนี้เป็นความลับไว้ในขณะที่เธอเป็นนักเรียน ม.ปลายที่มีพรสวรรค์ด้านดนตรี ใฝ่ฝันอยากเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยด้านนี้โดยเฉพาะ แต่ชีวิตที่ยากลำบากอยู่แล้วกลับมีอุปสรรคถาโถมเข้ามาไม่หยุด จนเธอเริ่มหมดหวังมองไม่เห็นทางไปต่อในชีวิต

ชื่อหนังภาษาไทย “ความหวังหลังรถโรงเรียน” ทำให้คิดว่าเรื่องวนอยู่กับการที่นางเอกต้องปิดความลับเรื่องบ้านของตัวเองไว้ ซึ่งเปิดเรื่องมาก็จะได้เห็นรายละเอียดการใช้ชีวิตในรถโรงเรียนของนางเอก จะว่าเป็นคนไร้บ้านก็ได้ แต่จริงๆ ไม่ใช่ แค่นางเอกกับแม่มีเหตุผลบางอย่างทำให้ต้องมาอาศัยอยู่ในรถโรงเรียนทุกวันยามค่ำคืน และต้องพยายามอยู่ได้ด้วยข้อจำกัดทุกอย่างแม้แต่การอาบน้ำก็ต้องไปขออาบแบบเนียนๆ ในที่ทำงานพิเศษของนางเอก ในตอนแรกอาจจะดูเหมือนชีวิตลับส่วนนี้ของนางเอกเป็นเมนเรื่องหลัก แต่ตัวเรื่องกลับให้เวลาจุดนี้ไม่นานนัก เพียงแค่ปูให้เห็นว่านางเอกแม้จะลำบาก แต่เธอกลับพยายามให้อะไรตอบแทนคนอื่นมากมาย ทั้งในที่ทำงานบ้านพักคนชรา โบสถ์ โรงเรียน ก่อนที่เรื่องราวจะพลิกดิ่งลงทันทีหลังผ่านครึ่งชั่วโมงแรก ตัวเรื่องที่ก่อนนี้สดใสกลับค่อยๆ ดาร์คขึ้นเรื่อยๆ พลิกโทนเรื่องไปอีกแบบเลย ซึ่งเรื่องราวการอยู่ในรถโรงเรียนตอนแรกจะไม่มีมาเกี่ยวข้องอีกแล้ว กลายมาเป็นว่าชีวิตนางเอกมีอะไรที่หนักอึ้งเข้ามามากกว่านั้น และยังทำให้ชีวิตของเธอต้องเปลี่ยนไปแบบไม่อาจจะหวนกลับมาแก้ไขหรือกลับเป็นเหมือนเดิมได้อีกตลอดไป

ถ้าใครไม่ได้ตั้งใจมาดูแนวหดหู่รันทดก็คงอึ้งไปกับช่วงมืดมิดของนางเอก ที่หนังทำออกมาได้เรียลมากๆ แถมยังขยี้ซ้ำเติมจุดตกต่ำสุดของนางเอกให้เจออะไรที่แย่ลงไปเรื่อยๆ จากคนคิดบวกมีพลังงานเหลือล้นต้องกลับมากลายเป็นคนเก็บกดโทษว่าเป็นความผิดของตัวเอง ซึ่งจุดนี้ทำออกมาเหมือนคนต้องเจอกับเรื่องแย่ในชีวิตจริงๆ ซึ่งไม่ใช่จะหาทางออกจากจุดนี้ได้ง่ายๆ ซึ่งหนังให้รายละเอียดบทตรงนี้ดูสมจริงมาก จนรู้สึกเหมือนว่าเรื่องนี้เขียนขึ้นมาจากเรื่องจริงของชีวิตวัยรุ่นใครสักคนที่บอบช้ำจากปัญหาครอบครัวแบบทั้งแม่ติดเหล้า พ่อเลี้ยงชอบใช้ความรุนแรง ซึ่งพบเจอได้จริงในสังคม

แต่หนังก็ไม่ได้ดาร์คลากยาวกันไปจนจบ ในช่วงเวลาสุดท้ายของเรื่องก็มีทางออกให้นางเอก ซึ่งจริงๆ ก็เป็นทางออกที่มีมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่ว่าเธอกลับไม่พยายามใช้มัน เนื่องจากนิสัยทิฐิของตัวเธอเองมาตั้งแต่แรก ซึ่งเป็นทางออกที่ง่ายๆ แบบที่พบเห็นได้ทั่วไปในยุคนี้เวลามีคนตกทุกข์ได้ยาก ซึ่งระดับของนางเอกนี่ต้องเรียกว่าเป็นเคสที่สุดๆ มาก และช่วงเวลาที่เรื่องหาทางออกให้ได้ว่าประทับใจแล้ว ในช่วงเวลานั้นยังมีเซอไพรซ์เล็กๆ ซ้อนให้ผู้ชมได้ประทับใจกันอีกรอบ โดยที่จุดนี้เรื่องหยอดไว้ตลอดทางอยู่แล้วแม้จะคาดเดาได้ แต่ก็ยังให้อารมณ์ตื้นตันใจมาก ตัวหนังส่งพลังความรู้สึกให้ตอนจบได้ลงตัวจนเสียน้ำตาได้ไม่ยากเลยจริงๆ

นางเอก อาวลีอี คราวาลิโอ แม้จะไม่ได้ดูสวยใสพิมพ์นิยมอะไรนัก แต่ก็เหมาะเจาะกับบทติดดินแบบนี้มาก มีฉากที่เธอต้องร้องเพลงสดก็ออกมาไพเราะมาก (ฉากนี้เสียงนักพากย์ไทยก็ร้องได้ดีเลยทีเดียว) ส่วนเพื่อนๆ รอบตัวเธอแม้บทจะไม่ได้เด่น แต่ทุกคนก็มีส่วนช่วยให้เรื่องดูกลมกล่อม มีพลังบวกจากมิตรภาพให้นางเอก ตัวพระเอกของเรื่องอาจจะดูคาแรกเตอร์แปลกตาสักหน่อยเพราะเป็นเด็กหนุ่มผิวดำลูกคนรวย ที่พยายามช่วยนางเอกอยู่เสมอ แม้เรื่องจะบอกอยู่แล้วนางเอกแอบชอบมาตั้งแต่แรก แต่ด้วยสถานะทางบ้านที่ต้องปิดบังไว้ทำให้เป็นแค่เพื่อน ซึ่งตรงนี้ก็มีมุมโรแมนติกปนมานิดๆ พอหยอดให้มองว่าเป็นหนังรักได้อยู่เหมือนกัน

นี่เป็นหนังนอกสายตาที่ดูภายนอกธรรมดามาก แต่หนังสร้างปมดาร์คกับชีวิตวัยรุ่นจากต้นเหตุปัญหาครอบครัวแบบเกิดขึ้นได้จริงๆ และขยี้ซ้ำได้หนักหน่วงมาก แต่ตัวเรื่องก็มีความอบอุ่น ตื้นตัน มีความหวังแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ชมกลับมาด้วย เนื้อเรื่องแม้จะไม่ถึงกับแปลกใหม่ แถมยังพบเห็นได้ในชีวิตจริง แต่ในความธรรมดาของเรื่องกลับมีอะไรหลายอย่างมากมายให้ประทับใจ ควรค่าแก่การดูมาก