เยอรมนีบังคับใช้เคอร์ฟิวกับพื้นที่ มีอัตราติดเชื้อโควิดสูง

เมืองใดก็ตามในเยอรมนีที่มีอัตราการพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 มากเกินเกณฑ์ตามกฎหมายใหม่ ต้องอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมตามแนวทางของรัฐบาลกลาง ที่รวมถึงการบังคับใช้เคอร์ฟิว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ว่าประธานาธิบดีฟรังก์ วอลเทอร์-ชไตน์ไมเออร์ ลงนามรับรองกฎหมายควบคุมโรคฉบับแก้ไขเพิ่มเติม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังกฎหมายผ่านการอนุมัติจากรัฐสภา ทั้งนี้ กฎหมายมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 23 เม.ย. จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.นี้ “เป็นอย่างน้อย”
 
อย่างไรก็ตาม “กฎระเบียบทางสังคมส่วนกลาง” จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 24 เม.ย. โดยความเข้มงวดจะเป็นไปตามอัตราการติดเชื้อไวรัสโคโรนา ต่อประชากร 100,000 คน ภายในระยะเวลา 7 วันล่าสุด หากในพื้นที่แห่งใดมีอัตราการติดเชื้อมากกว่า 100 คน ต้องอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมตามแนวทางของรัฐบาลกลางเป็นเวลาอย่างน้อย 3 วัน หากอัตราการติดเชื้อลดลงภายในระยะเวลานั้น มาตรการจะถูกยกเลิก แต่หากอัตราการติดเชื้อยังไม่ลดลง มาตรการจะมีผลบังคับใช้ต่อไป

สำหรับมาตรการที่กำหนดโดยรัฐบาลกลางเรียกได้ว่า เป็นการล็อกดาวน์เฉพาะจุด คือการห้ามการรวมตัวระหว่างผู้คนต่างครัวเรือน การรวมกลุ่มในสถานที่สาธารณะอนุญาตให้ไม่เกิน 5 คน สถานประกอบการไม่จำเป็นต้องปิดให้บริการ ร้านอาหารจำหน่ายได้เฉพาะซื้อกลับบ้านเท่านั้น และไม่อนุญาตให้มีการพักในโรงแรงด้วยเหตุผลเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ส่วนการจัดการเรียนการสอนภายในโรงเรียนให้ระงับชั่วคราว หมายความว่า ต้องเป็นการเรียนออนไลน์
 
ขณะที่มาตรการที่ทุกฝ่ายมองว่า “เข้มงวดที่สุด” และ “เป็นที่ถกเถียงมากที่สุด” ในเวลาเดียวกัน คือเคอร์ฟิวระหว่างเวลา 22.00 น. ถึง 05.00 น. ยกเว้นเฉพาะบุคลากรการแพทย์ และการให้บริการฉุกเฉินที่เกี่ยวข้องกับงานสาธารณสุข

ปัจจุบันเยอรมนีมีผู้ป่วยสะสมจากโรคโควิด-19 มากกว่า 3.2 ล้านคน รักษาหายสะสมเป็นจำนวนมากกว่า 2.8 ล้านคน และเสียชีวิตสะสมเป็นจำนวนมากกว่า 81,000 ราย